วันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2559

กิจกรรมที่3 ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์

ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์






โครงงานคอมพิวเตอร์เป็นกิจกรรมที่ต้องทำอย่างต่อเนื่องหลายขั้นตอน และแต่ละขั้นตอนจะมีความสำคัญต่อโครงงานนั้น ๆ การแบ่งขั้นตอนของการทำโครงงานอาจแตกต่างกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะของโครงงานและการวางแผนการทำโครงงานในที่นี้จะบ่งการทำงานออกเป็น 6 ขั้นตอนดังนี้

1. การคัดเลือกหัวข้อโครงงานที่สนใจทำ

การคัดเลือกหัวข้อโครงงานที่สนใจทำโดยทั่วไปเรื่องที่จะนำมาพัฒนาเป็นโครงงานคอมพิวเตอร์ มักจะได้มาจากปัญหา คำถาม หรือความสนใจในเรื่องต่าง ๆ จากการสังเกตสิ่งต่าง ๆ รอบตัว นักเรียนสามารถจะศึกษาการได้มาของเรื่องที่จะทำโครงงาน การอ่านค้นคว้า การไปเยี่ยมชมสถานที่ต่าง ๆ การฟังบรรยาย รายการวิทยุโทรทัศน์ สนทนาอภิปราย กิจกรรมการเรียนการสอน งานอดิเรก การเข้าชมงานนิทรรศการหรืองานประกวดโครงงานคอมพิวเตอร์ ในการตัดสินใจเลือกหัวข้อที่จะนำมาพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ ควรพิจารณาองค์ประกอบสำคัญดังนี้
  •          จะต้องมีความรู้และทักษะพื้นฐานอย่างเพียงพอในหัวข้อเรื่องที่    จะศึกษา
  •          สามารถจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องได้
  •          มีแหล่งความรู้เพียงพอที่จะค้นคว้าหรือขอคำปรึกษา
  •          มีเวลาเพียงพอ
  •          มีงบประมาณเพียงพอ
  •          มีความปลอดภัย


2. ศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล

ศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูลรวมถึงการขอคำปรึกษาจากผู้ทรงคุณวุฒิช่วยจะช่วยให้นักเรียนได้แนวคิดที่ใช้ในการกำหนดของเขตของเรื่องที่จะศึกษาได้เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น รวมทั้งความรู้เพิ่มเติมในเรื่องที่จะศึกษาจนสามารถใช้ออกแบบและวางแผนดำเนินการทำโครงงานนั้นได้อย่างเหมาะสมในการศึกษาค้นคว้าดังกล่าว นักเรียนจะต้องบันทึกสรุปสาระสำคัญไว้ด้วย
จะต้องพิจารณาดังนี้ มูลเหตุจูงใจและเป้าหมายในการทำ วัสดุอุปกรณ์ ความต้องการของผู้ใช้งานและคุณลักษณะของผลงาน (Requirement and Specification) วิธีการประเมินผล วิธีการพัฒนา ข้อสรุปของโครงงาน ความแปลกใหม่ ความคิดสร้างสรรค์ แนวทางในการปรับปรุงหรือขยายการทดลองจากงานเดิม



3. การจัดทำเค้าโครงของโครงงาน

การจัดทำเค้าโครงร่างของโครงงานที่จะทำ จำเป็นต้องกำหนดกรอบแนวคิดและวงแผนการพัฒนาล่วงหน้าเพื่อคาดการณ์ความเป็นไปได้ของโครงงาน ขั้นตอนที่สำคัญคือ ศึกษาค้นคว้าเอกสาร วิเคราะห์ข้อมูล ออกแบบการพัฒนา เสนอเค้าโครงของโครงงานต่ออาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อขอคำแนะนำและปรับปรุงแก้ไข

4. การลงมือทำโครงงาน

การลงมือทำโครงงานเมื่อเค้าโครงได้รับความเห็นชอบจากอาจารย์ที่ปรึกษาแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการพัฒนาตามขั้นตอนที่ได้วางแผนไว้ดังนี้ เตรียมการ ลงมือพัฒนา ตรวจสอบผลงานและแกไข อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ แนวทางในการพัฒนาโครงงานในอนาคต

5. การเขียนรายงาน

การเขียนรายงาน เป็นสื่อความหมายเพื่อให้ผู้อื่นได้เข้าใจแนวความคิด วิธีดำเนินการศึกษาค้นคว้า ข้อมูลที่ได้ ตลอดจนข้อสรุปและข้อเสนอแนะต่าง ๆ เกี่ยวกับโครงงานนั้น ในการเขียนควรใช้ภาษาที่อ่านเข้าใจได้ง่าย ชัดเจน กระชับ และตรงไปตรงมาให้ครอบคลุมหัวข้อต่าง ๆ

6. การนำเสนอและการแสดงผลงานของโครงงาน

 การนำเสนอและการแสดงผลงานของโครงงานเป็นการนำเสนอเพื่อแสดงออกถึงผลิตผลของความคิด ความพยายามในการทำงานที่ผู้ทำโครงงานได้ทุ่มเท และเป็นวิธีที่ให้ผู้อื่นได้รับรู้และเข้าใจในโครงงานนั้น ในการเสนออาจทำได้หลายรูปแบบ เช่น ติดโปสเตอร์ การรายงานตัวในที่ประชุม การแสดงผลงานด้วยสื่อต่าง การจัดนิทรรศการ การอธิบายด้วยคำพูด    โดยผลงานที่นำมาเสนอหรือจัดแสดงควรประกอบด้วยสิ่งต่อไปนี้
  1.  ชื่อโครงงาน 
  2. ชื่อผู้จัดทำโครงงาน
  3.  ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา
  4. คำอธิบายถึงที่มาและความสำคัญของโครงงาน
  5. วิธีการดำเนินการที่สำคัญ
  6. การสาธิตผลงาน
  7.  ผลการสังเกตและข้อสรุปสำคัญที่ได้จากการทำโครงงาน



ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์






วันจันทร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2559

ใบงานที่ 5 บทความสารคดีที่นำมาใช้เขียนโครงร่าง




           
        โปรแกรม Sony Vega เป็นโปรแกรมตัดต่อวิดีโอโปรแกรมหนึ่งที่สามารถทำให้งานตัดต่อวิดีโอของคุณให้เป็นไปได้อย่างสวยงาม เพราะด้วยคุณภาพของโปรแกรมนี้ที่มีคุณภาพสูง อีกทั้งลูกเล่นแปลกใหม่ที่ใช้งานง่าย ไม่ว่างานวิดีโอของคุณจะเป็นแบบไหน

         การรวมไฟล์วิดีโอ การตัดวิดีโอบางส่วนที่ไม่ต้องการ การเชื่อมต่อวิดีโอ การเพิ่มกราฟฟิค การเพิ่มเอฟฟิค เสียงต่างๆ อีกทั้ง โปรแกรม Sony Vega นี้ยังสนับสนุบ VCD และ DVD อีกด้วย และที่สำคัญเมื่อท่านตัดต่อเสร็จ คุณสามารถแปลงไฟล์เป็นไฟล์ที่คุณต้องการได้ง่ายๆ ซึ่งระดับมืออาชีพส่วนใหญ่มักใช้โปรแกรม Sony Vega นี้กันทั้งนั้น

        อีกทั้งรูปแบบการใช้งานค่อยข้างง่ายและสะดวกมากเมื่อเปรียบเทียบกับโปรแกรมตัดต่อวิดีโอทั่วๆไป สำหรับใครที่ยังใช้โปรแกรมตัดต่อวิดิโอ Camtasia studio อยู่แล้ว หากจะลองหันมาเล่นของโซนี่เวกัสบ้างก็ไม่แตกต่างกันเท่าไหร่นัก แต่ว่าโซนี่เวกัสจะมีลูกเล่นเยอะกว่า และการทำงานราบลื่นมากกว่า ซึ่งข้อนี้เองก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนด้วย 

        ความสามารถของโปรแกรมนี้จะมีความแตกต่างกับโปรแกรมแคมตาเซียเล็กน้อย ซึ่งการอัดวิดีโอหน้าจอ โซนี่จะไม่สามารถทำได้ แต่แคมตาเซียสามารถจัดการได้สบาย แต่ทว่าสำหรับการตัดต่อวิดีโอแล้ว โซนี่ เทพมากกว่า หากคุณพร้อมแล้วก็สามารถโหลดไปทดสอบความเทพกันได้เลย และที่สำคัญไปมากกว่านั้น ทาง boxload-software ได้มีตัวแครกไว้ให้คุณเรียบร้อย ซึ่งคุณสามรถใช้งานได้โดยไม่หมดอายุ



 
 
 
หน้าตาของโปรแกรม Sony Vegas Pro 11
 


 Menu Bar and Tool Bar
ซึ่งประกอบไปด้วยเครื่องมือต่างๆ ที่จำเป็นในการตัดต่อวีดีโอ






 

Window docking areaเป็นส่วนที่ประกอบไปด้วยหน้าต่าง Preview และหน้าต่างย่อยที่ช่วยให้เราสามารถต้ดต่อวีดีโอได้สะดวกยิ่งขึ้น







 
Timeline and Tracklist เป็นส่วนที่ใช้สำหรับตัดต่อคลิปวีดีโอ คลิปเสียง และใส่เอฟเฟคต่างๆ เราจะทำงานที่ส่วนนี้เป็นส่วนใหญ่กัน







                 ส่วนของเมนูบาร์ (File, Edit, View, Inset, Option, Help) จะเป็นส่วนสำหรับใช้คำสั่งต่างๆ
ส่วนของทูลบาร์(ด้านล่างของเมนูบาร์) จะประกอบไปด้วยปุ่มต่างๆดังนี้ (ไล่จากซ้ายไปขวา)

ปุ่มที่ 1 (ที่เป็นรูปกระดาษพับตรงมุม) จะเป็นปุ่ม New ใช้สำหรับสร้างโปรเจ็กงานใหม่
ปุ่มที่ 2 (เป็นรูปโฟลเดอร์) จะเป็นปุ่ม Open ใช้หรับเปิดโปรเจ็กที่มีอยู่แล้วมาทำงาน
ปุ่มที่ 3 (เป็นรูปแผ่นดิสก์เกต) จะเป็นปุ่ม Save ใช้สำหรับบันทึกชิ้นงานที่เรากำลังสร้าง (หรือจะกดปุ่มลัดคือ Ctrl+s ก็ได้ครับ) บันทึกเรื่อยๆ
ปุ่มที่ 4 (เป็นรูปแผ่นดิสก์เกตอะไรเอ่ย) จะเป็นปุ่ม Save as name ใช้สำหรับบันทึกชิ้นงานให้เป็นชื่ออื่น มาแก้ไขใหม่ได้เรื่อยๆ แต่หากเราไปเซฟทับชิ้นงานที่เสร็จแล้ว เราไปตกแต่งเกินที่จะแก้ไขได้ สุดท้ายก็ต้องมานั่งทำชิ้นงานใหม่ทั้งหมด)
ปุ่มที่ 5 (เป็นรูปฟิล์มตั้งมีรูปคลื่นด้านล่างสีเขียว) เป็นปุ่ม Render  คือ เมื่อเราทำการติดต่อชิ้นงานเสร็จเรียบร้อยแล้วกระบวนการสุดท้ายคือการนำชิ้นงานออกมาเผยแพร่เป็นไฟล์วีดีโอ ปุ่มนี้แหล่ะ เอาไว้ประมวลผลชิ้นงานหลังตัดต่อวีดีโอเสร็จ
ปุ่มที่ 6 (เป็นปุ่มที่มีรูปเมาส์วางอยู่บนพื้นที่สีขาว) เป็นปุ่มที่ใช้เปิดคุณสมบัติของโปรเจ็ค (Properties Project) เช่น video ก็จะบอกว่า ใช้ templet อะไร ขนาดเท่าไหร่ audio ก็จะเป็น stereo หรือ mono
ปุ่มที่ 7 (รูปกรรไกร) เป็นปุ่ม Cut ที่ใช้ลบคลิปที่ไม่ต้องการออกจาก Timeline
ปุ่มที่ 8 (รูปกระดาษสองแผ่น) เป็นปุ่ม Copy ใช้คัดลอกคลิปที่อยู่บน Timeline
ปุ่มที่ 9 (รูปคลิปบอร์ด) เป็น Paste ใช้วางคลิปที่คัดลอกมาแล้วบน Timeline
ปุ่มที่ 10 และ 11 (ลูกศรโค้งชี้ด้านซ้ายและขวา) เป็น Undo และ Redo
ปุ่มที่ 12 (รูปลูกศร มีแม่เหล็ก) เป็นปุ่ม Enable snapping เมื่อกดปุ่มนี้แล้ว  นำคลิปสองคลิปมาใกล้กัน คลิปสองชิ้นจะดุดติดกันเป็นลักษณะ Crossfades
ปุ่มที่ 13 (รูปแหลมๆ สองแหลม ) เป็นปุ่ม Enable automatic crossfades เมื่อกดปุ่มนี้แล้ว เมื่อนำคลิปสองคลิปมาวางเกยทับ จะเกิดภาพจางซ้อนกันเป็น crossfades
ปุ่มที่ 14 ปุ่ม Enable automatic ripple editing เมื่อกดปุ่มนี้ เมื่อลบคลิปตรงกลาง ส่วนคลิปที่เหลือจะดูดติดสนิท
ปุ่มที่ 15 (รูปแม่กุญแจล็อกจุดสามจุด) ปุ่ม Lock envelopes to events เมื่อกดปุ่มนี้ จะทำให้ค่าต่างๆที่ตั้งไว้กับคลิป จะเคลื่อนตามคลิปไปด้วยเมื่อมีการย้ายคลิป
ปุ่มที่ 16 (รูปแม่กุญแจปลดล็อก) ปุ่ม Ignore event grouping เมื่อกดปุ่มนี้ เมื่อมีการเคลื่อนย้าย ภาพและเสียงจะแยกอิสระกัน
ปุ่มที่ 17 (รูปตัวไอมีคลื่น) ปุ่ม Normal Edit Tool เป็นเครื่องมือพื้นฐานสำหรับเลือกทำงานกับคลิปทั่วๆไป
ปุ่มที่ 18 (รูปจุดสามจุด) Envelope edit tool กดปุ่มนี้ เพื่อตั้งค่าคลิปต่างกันในแต่ละช่วงเวลา
ปุ่มที่ 19 (ปุ่มลูกศร) Select edit tool ใช้สำหรับเลือกคลิปหลายๆคลิปพร้อมกัน
ปุ่มที่ 20 (แว่นขยาย) เอาไว้ซูม
ปุ่มที่ 21 (มือชี้) เป็นเครื่องมือช่วยอธิบายโปรแกรม โดยมีการตอบโต้กับผู้ใช้งานด้วย
ปุ่มที่ 22 เป็นปุ่ม Help


 
วิธีการใช้โปรแกรม Sony Vegas เบื้องต้น 


 
 
สอน Sony Vegas Pro - ตัดต่อวีดีโอเบื้องต้น  
 
 

 
4 เทคนิคตัดต่อวีดีโอด้วย Sony Vegas  
 
 






 


วันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ใบงานที่ 4 คลังข้อสอบ


 




Cr. http://www.thaiveterans.mod.go.th/new_v2/wvo_v2/index.html



 Cr. http://www.tewfree.com/


รวมข้อสอบ GAT เชื่อมโยง พร้อมเฉลย โดย AJ KLUI
            ข้อสอบจริง GAT เชื่อมโยง 14 ครั้ง (มี.ค. 52 – มี.ค. 54) + เฉลย คลิกที่นี่   
            ข้อสอบจริง GAT เชื่อมโยง ต.ค. 54 มี.ค. 56 คลิกที่นี่   + เฉลย คลิกที่นี่   
             ข้อสอบจริง GAT เชื่อมโยง เม.ย. 57 + เฉลย คลิกที่นี่   



ข้อสอบ GAT-PAT ปี 2554 ครั้งที่ 1

ทั่วไป GAT ตอนที่ 2  
ข้อสอบ GAT-PAT ปี 2553 ครั้งที่ 3

ข้อสอบ GAT-PAT ปี 2553 ครั้งที่ 2ความถนัด

ทั่วไป GAT ตอนที่ 1
ทั่วไป GAT ตอนที่ 2 
ทางคณิตศาสตร์ PAT 1
ทางวิทยาศาสตร์ PAT 2
ทางวิศวกรรมศาสตร์ PAT 3 
ทางสถาปัตยกรรมศาสตร์ PAT 4 
ทางวิชาชีพครู PAT 5
ทางศิลปกรรมศาสตร์ PAT 6 
ทางภาษาฝรั่งเศส PAT 7.1 
ทางภาษาเยอรมัน PAT 7.2 
ทางภาษาญี่ปุ่น PAT 7.3 
ทางภาษาจีน PAT 7.4
ทางภาษาอาหรับ PAT 7.5 
ทางภาษาบาลี PAT 7.6 


ข้อสอบ GAT-PAT ปี 2553 ครั้งที่ 1ความถนัด

ทั่วไป GAT  
ทางคณิตศาสตร์ PAT 1 
ทางวิทยาศาสตร์ PAT 2 
ทางวิศวกรรมศาสตร์ PAT 3
ทางสถาปัตยกรรมศาสตร์ PAT 4
ทางวิชาชีพครู PAT 5
ทางศิลปกรรมศาสตร์ PAT 6 
ทางภาษาฝรั่งเศส PAT 7.1
ทางภาษาเยอรมัน PAT 7.2
ทางภาษาญี่ปุ่น PAT 7.3
ทางภาษาจีน PAT 7.4 
ทางภาษาอาหรับ PAT 7.5 
ทางภาษาบาลี PAT 7.6


ข้อสอบ GAT-PAT ปี 2552 ครั้งที่ 3ความถนัด

ทั่วไป GAT ตอนที่ 1
ทั่วไป GAT ตอนที่ 2
ทางคณิตศาสตร์ PAT 1 
ทางวิทยาศาสตร์ PAT 2 
ทางวิศวกรรมศาสตร์ PAT 3
ทางสถาปัตยกรรมศาสตร์ PAT 4 
ทางวิชาชีพครู PAT 5
ทางศิลปกรรมศาสตร์ PAT 6
ทางภาษาฝรั่งเศส PAT 7.1
ทางภาษาเยอรมัน PAT 7.2
ทางภาษาญี่ปุ่น PAT 7.3 
ทางภาษาจีน PAT 7.4 
ทางภาษาอาหรับ PAT 7.5
ทางภาษาบาลี PAT 7.6 




ติวแกทเชื่อมโยง อ. ขลุ่ย



 Cr. https://www.youtube.com/watch?v=4NCi-8Nb0qo




เทคนิคคว้า 150 คะแนนเต็ม GAT เชื่อมโยง ปี59 by พี่เต๋อ ออนดีมานด์



Cr.  https://www.youtube.com/watch?v=tfmlOdG17VI



ตื่นมาติว Admission GAT ภาษาอังกฤษ EP.1



วันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ใบงานที่ 3 พ.ร.บ คอมพิวเตอร์

 

พ.ร.บ คอมพิวเตอร์ปี 2559





                            
                   พ.ร.บ คอมพิวเตอร์ปี 2559 คือร่างแก้ใขของ พ.ร.บ คอมพิวเตอร์ปี 2550 ที่ถูกปรับปรุงให้ทันสมัย เหมาะสมกับเวลาและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป ดังนั้นโครงสร้างของกฎหมายสองฉบับจึงเหมือนกันเป็นส่วนใหญ่ และแน่นอนกฏหมายทั้งสองฉบับก็ต้องมีส่วนที่แตกต่างกันอยู่หลายประเด็น และหลายๆ ประเด็นก็ถูกตั้งคำถามมากมายว่าเป็นธรรมหรือไม่ เหมาะสมหรือไม่?

                  พ.ร.บ คอมพิวเตอร์ปี 2559 ถูกเริ่มร่างเมื่อปี 2558  และยังคงแก้ใขต่อเนื่องมาถึงปี 2559 ดังนั้น พ.ร.บ คอมพิวเตอร์ปี 2558 ก็คือฉบับเดียวกันกับพ.ร.บ คอมพิวเตอร์ปี 2559



ข้อแตกต่างของ พรบ พ.ร.บ คอมพิวเตอร์ปี 2559 กับ ปี 2550
 
 
                       เนื้อหาสำคัญของ พ.ร.บ คอมพิวเตอร์ปี 2559 ตามที่ Posttoday นำเสนอ
การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วันที่ 28 เม.ย. จะมีการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ …) พ.ศ… วาระที่ 1 ขั้นรับหลักการ ซึ่งเป็นร่าง พ.ร.บ.ที่ปรับปรุงเนื้อหาบางส่วนที่อยู่เดิมในพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550

สำหรับเนื้อหาของร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวมีสาระสำคัญดังนี้
 
มาตรา 4
 “ผู้ใดส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แก่บุคคลอื่น โดยไม่เปิดโอกาสให้ผู้รับข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์สามารถบอกเลิกหรือแจ้งความประสงค์เพื่อปฏิเสธการตอบรับได้ อันเป็นการก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้รับ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 200,000 บาท”
 
มาตรา 5
กำหนดว่า ถ้าผู้ใดกระทำผิดใน 5 ประการ ได้แก่
1.การเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกัน
2.นำมาตรการป้องกันการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่ผู้อื่นจัดทำขึ้นเป็นการเฉพาะไปเปิดเผยโดยมิชอบ
3.ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน
4.ดักรับไว้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นที่อยู่ระหว่างการส่งในระบบคอมพิวเตอร์ และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นมิได้มีไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะ และ
5.ส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แก่บุคคลอื่น โดยปกปิดหรือปลอมแปลงแหล่งที่มาของการส่งข้อมูลดังกล่าว
 
ทั้งหมดต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-7 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 บาทถึง 140,000 บาท ที่สำคัญ ถ้าการกระทำความผิดดังกล่าวเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือระบบคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือโครงสร้างพื้นฐานอันเป็นประโยชน์สาธารณะ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 บาทถึง 200,000 บาท

มาตรา 10
มีการแก้ไขเพื่อเพิ่มบทลงโทษให้มากขึ้นโดยให้ผู้กระทำผิดต้องรับทั้งโทษจำคุกและโทษปรับ จากเดิมที่ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 กำหนดการกระทำความผิดในลักษณะที่ว่านั้นด้วยการต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
 
ขณะเดียวกัน ในร่างกฎหมายที่ ครม.เสนอให้ สนช.พิจารณา ยังได้บัญญัติมาตรการทางศาลเพื่อช่วยเหลือผู้เสียหายด้วย โดย   มาตรา 11 ระบุว่า “ในคดีซึ่งมีคำพิพากษาว่าจำเลยมีความผิด ศาลอาจสั่ง
(1) ให้ยึดและทำลายข้อมูล
(2) ให้โฆษณาคำพิพากษาทั้งหมดหรือแต่บางส่วนในสื่อที่ใช้ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ หรือหนังสือพิมพ์ ตามที่ศาลเห็นสมควร โดยให้จำเลยเป็นผู้ชำระค่าโฆษณา”
เช่นเดียวกับ
 
 มาตรา 20 ที่ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ที่ได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแต่งตั้ง ยื่นคำร้องพร้อมแสดงหลักฐานต่อศาลขอให้มีคำสั่งระงับการเผยแพร่หรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นออกจากระบบคอมพิวเตอร์ได้ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ในที่นี้มีด้วยกัน 4 ประเภท ดังนี้
(1) ข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.นี้
(2) ข้อมูลที่อาจกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรที่กำหนดไว้ในภาคสองลักษณะ 1 หรือลักษณะ 1/1 ตามประมวลกฎหมายอาญา
(3) ข้อที่เป็นความผิดอาญาต่อกฎหมายอื่นซึ่งเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายนั้นได้ร้องขอ และข้อมูลนั้นมีลักษณะขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
(4) ข้อมูลที่ไม่เป็นความผิดต่อกฎหมายอื่นแต่มีลักษณะขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรืออันดีของประชาชน ซึ่งคณะกรรมการกลั่นกรองข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่รัฐมนตรีมีมติเป็นเอกฉันท์
 


 
 
 

               ร่างแก้ไขพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ฉบับนี้ ยังมีประเด็นใหม่ๆ เพิ่มเติมเข้ามา เช่น การขยายระยะเวลาที่ให้ผู้ให้บริการมีหน้าที่เก็บข้อมูลการใช้งานคอมพิวเตอร์ในกรณีจำเป็นจากไม่เกินหนึ่งปีเป็นสองปี การมีเงินเพิ่มพิเศษให้สำหรับเจ้าพนักงานตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ การเอาผิดกับการเผยแพร่ภาพตัดต่อไปถึงภาพตัดต่อของผู้ที่เสียชีวิตแล้ว การเพิ่มโทษฐานส่งสแปมโดยไม่เปิดโอกาสให้บอกเลิก รวมทั้งการเพิ่มโทษการเจาะระบบหรือทำลายระบบคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของรัฐด้วย
 
 

 Cr. https://ilaw.or.th/node/4092


ข้อเสนอแก้มาตรา 14(1) ร่างแก้ไข พรบ.คอมพิวเตอร์ฉบับล่าสุด 2559


 
 

 ภาพยนตร์สั้น เรื่อง MINA&LISA (พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์)


 


วันจันทร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ใบงานที่2 ความรู้เรื่องBlogger


ความรู้เรื่อง Blogger

                Blogger บริการดี ๆ ของ Google อีกรูปแบบหนึ่ง สำหรับคุณๆ ที่ต้องการมี WebBlog เป็นของตนเอง Blogger นั้นเป็นที่ได้รับความนิยมในหมู่ของคนที่ชื่นชอบในการเขียน ใช้งานง่าย และมีเทมเพลทให้เลือกใช้งานมากมาย ซึ่งปัจจุบันสามารถปรับแต่งเทมเพลทแบบที่เราต้องการได้ ติดตามอ่านบทความได้ในส่วนนี้ครับ เนื่องจาก Blogger มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เครื่องไม้เครื่องมือหรือตำแหน่งต่าง ๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลงไป ninetechno.com จะ update เนื้อหาใหม่ ๆ ให้คุณได้ใช้งาน Blogger เป็น อย่างรวดเร็ว
Blogger คืออะไร?
บล็อก (อังกฤษ: blog) หรือ เว็บล็อก (weblog) เป็นหน้าเว็บประเภทหนึ่ง ซึ่งคำว่า blog ย่อมาจากคำว่า weblog หรือ web log โดยคำว่า weblog นั้นมาจาก web (เวิลด์ไวด์เว็บ) และ log (ปูม, บันทึก) รวมกัน หมายถึง บันทึกบนเวิล์ดไวด์เว็บ นั่นเอง
ในปัจจุบันบล็อก ถูกใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารรูปแบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการประกาศข่าวสาร การแสดงความคิดเห็น การเผยแพร่ผลงาน ฯลฯ และกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยขณะนี้ได้มีผู้ให้บริการบล็อกมากมาย ทั้งแบบให้บริการฟรี และเสียค่าใช้จ่าย
 
Blog ก็คือ Website รูปแบบหนึ่ง ที่มีการจัดเรียง “เรื่อง” หรือ post เรียงลำดับ โดยเรื่องใหม่จะอยู่บนสุด ส่วนเรื่องเก่าสุดก็จะอยู่ด้านล่างสุด
Blog อาจจะพัฒนาขึ้นมาอีกขั้นของ ไดอารี่ online ก็เป็นได้ โดย Blog จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไรก็ได้ ไม่จำกัด ซึ่ง ไดอารี่ ก็ถือว่าเป็น Blog ในรูปแบบหนึ่ง
Blogger สามารถแปลได้ 2 ความหมายคือ
1. คนเขียนบล็อก หรือเจ้าของบล็อก
2. ระบบ update blog หรือ blog engine ที่เรียกว่า Blogger.com

ซึ่งสามารถประเภทจำแนกได้คร่าวๆ ดังนี้
             1. บล็อกเกอร์อิสระ นักเขียนบล็อกประเภทนี้จะเขียนบล็อกของตัวเอง โดยจำกัดบล็อกของตัวเองไว้ว่าเป็นบล็อกส่วนตัว สำหรับเขียนเรื่องราวส่วนตัว หรือความคิดส่วนตัว โดยไม่ได้นำเสนอบล็อกของตัวเองเพื่อการอย่างอื่น นอกจากการชมเพื่อความบันเทิง, ความสนุกในหมู่เพื่อนฝูง



             2. บล็อกเกอร์แนวธุรกิจ => รับทำบล๊อกเกอร์ นักเขียนบล็อกกลุ่มนี้ มักจะเขียนเนื้อหาของ blog ที่เป็นการแนะนำผลิตภัณฑ์หรือบริการของตน คือใช้ blog เป็นเครื่องมือในการทำการตลาด

             3. บล็อกเกอร์แบบองค์กร บล็อกเกอร์กลุ่มนี้ จะใช้ blog เพื่อเป็นการสื่อสารภายใน ไม่ว่าจะเป็นภายในองค์กร เช่นภายในบริษัท หรือใช้สื่อสารภายในทีมฟุตบอล หรือสโมสรต่างๆ





            4. บล็อกเกอร์มืออาชีพ บล็อกเกอร์ที่เขียนบล็อกอย่างเดียว โดยมีรายได้จากบล็อกเพื่อยังชีพ บางคนได้รับค่าจ้างเป็นเงินเดือน ให้เขียนบล็อกอย่างเดียว บางคนเขียนบล็อกของตัวเอง โดยได้รับค่าโฆษณาต่างๆ จากผู้สนับสนุน กลุ่มนี้อาจเป็นบริษัทที่เขียนบล็อกโดยเฉพาะ ที่เห็นชัดเจนก็คือ blogger ชาวต่างประเทศ เพราะเขียนให้คนอ่านมากๆ แล้วใช้โฆษณาของ Google Adsense มาติดไว้ บางคนมีก็รายได้จากการเป็น presenter ให้สินค้าต่างๆ   

Cr.  https://www.youtube.com/watch?v=5ZrLIhP2zy0


การสร้างบล็อก และ การปรับเปลี่ยน Blogger Template





วิธีสร้างเมนู blogspot หรือ blogger.com